ปีนักษัตร ต่อไปนี้ เตรียมตัวดวงเปิด ฟ้าเปลี่ยน ดวงการเงิน
กำลังจะดีขึ้น ในครึ่งปีหลัง 2564
ตำนานปีนักษัตร ตามคว่มเชื่อแบบชาวจีน
เป็นตำนานที่ เล่าขานกันมาช้านานตั้งแต่โบราณกาลของจีน เล่ากันว่า ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เทพเจ้าพูดกับสัตว์ทั้งหลายว่า “ใกล้ปีใหม่แล้ว รุ่งเช้าวันชิวอิก ( คือ วันที่ 1 เดือนอ้ายตามจันทรคติของจีน) เชิญพวกเจ้ามาอวยพรปีใหม่ ข้าจะกำหนด 12 นักษัตรตามลำดับ ใครมาถึงก่อนก็เป็นอันดับที่ 1 ถึง 12 ตั้งแต่นี้ไป ในแต่ละปีก็จะมีสัตว์ 1 ตัวเป็นนักษัตร” สัตว์ทั้งหลายต่างจดจำวันดังกล่าวไว้ได้อย่างแม่นยำ มีแต่แมวขี้เกียจเท่านั้นที่จำไม่ได้จึงไปถามหนู เจ้าหนูหลอกแมวว่า “เป็นวันชิวยี่จ๊ะ ( วันที่ 2 เดือนอ้าย ) ”
ซึ่งวันส่งท้ายปีเก่ามา ถึงอย่างรวดเร็ว เจ้าวัวรู้ตัวว่าเดินช้า จึงออกเดินท่างตั้งแต่เที่ยงคืน พอเจ้าหนูเห็น ก็เลยกระโดดขึ้นหลังวัว เมื่อมาถึงเช้าวันชิวอิก วัวก็เดินทางไปถึงก่อนใครๆ และเมื่อวัวส่งเสียงเรียก เทพเจ้าก็ออกมาเปิดประตูให้ เจ้าหนูรีบกระโดดลงมาจากหลังวัวและวิ่งไปหาเทพเจ้า “เจ้าหนู ยินดีต้อนรับ เจ้ามาถึงเช้าที่สุด นักษัตรที่ 1 คือเจ้า”
ด้วยเหตุนี้ หนู (ชวด) ถึงถูกจัดให้อยู่เป็นอันดับแรกของนักษัตร วัว (ฉลู) อยู่ในอันดับ 2 แล้วตามด้วยเสือ (ขาล) กระต่าย (เถาะ) มังกร (มะโรง) งู (มะเส็ง) ม้า (มะเมีย) แพะ (มะแม) ลิง (วอก) ไก่ (ระกา) สุนัข (จอ) และหมู (กุน)
ใน วันที่ 2 เจ้าแมวจึงตามมา แต่ก็สายไปแล้ว เพราะถูกหนูหลอก จึงแค้นใจมาก นับแต่นั้นเป็นต้นมา เมื่อแมวเห็นหนูก็จะไล่จับทันที เทพเจ้าก็เลยสั่งให้เจ้าหนูหลบซ่อนในถ้ำหรือซอกรูเล็กๆ ตั้งแต่นั้นมา นี่เป็นตำนานเกี่ยวกับ 12 นักษัตรในจีน
เรื่อง ของปีนักษัตร ตามตำนานจีนบอกว่าเกิดจากดำริของเง็กเซียนฮ่องเต้ ที่จะตั้งสัตว์ต่าง ๆ เป็นเจ้าของปี จึงให้สัตว์ต่าง ๆ ว่ายข้ามน้ำมารายงานตัว ใครถึงก่อนได้ปีก่อนตามลำดับตอนนั้น หนูกับ แมวเป็นเพื่อนรักกัน แต่เป็นสัตว์สองชนิดที่ว่ายน้ำได้แย่ที่สุด แต่ทั้งหนูและแมวก็มีความฉลาดทั้งคู่ เลยร่วมกันทำความตกลงกับวัว ว่าขอเกาะหลังวัวไป วัวซึ่งแข็งแรงและมีใจอารีอยู่แล้วก็ตกลง แต่พอใกล้จะถึงฝั่ง หนูกลับคิดอยากจะได้ตำแหน่งที่หนึ่งให้ได้ จึงวางแผนเตะแมวตกน้ำไป เพื่อกำจัดคู่แข่ง และเมื่อใกล้ถึงฝั่ง หนูก็รีบกระโดดจากหลังวัวขึ้นสู่ฝั่งเป็นตัวแรก จึงได้เป็นนักษัตรลำดับแรก ตามด้วยวัวซึ่งขึ้นฝั่งตามมา กลายเป็นนักษัตรที่สอง ถัดจากวัว ก็เป็นเสือที่หอบแฮ่ก ๆ ขึ้นฝั่ง โดยอธิบายว่า ขณะข้ามน้ำมา โดนน้ำซัดปลิวไป ต้องลุยน้ำกลับมาใหม่ จึงมาถึงช้ากว่ากำหนด เสือจึงได้ตำแหน่งนักษัตรที่สาม จากนั้น กระต่ายก็ตามมาถึง โดยเล่าให้ฟังว่า ทีแรกก็กระโจนตามโขดหินมาเรื่อย ๆ แต่พอถึงกลางน้ำก็ไปต่อไม่ได้ โชคดีที่มีขอนไม้ลอยมา เลยเกาะขอนไม้เข้าสู่ฝั่งได้ กลายเป็นนักษัตรที่สี่ อันดับห้าที่มาถึงเป็นมังกร ซึ่งน่าสงสัยว่าสัตว์ที่เหินฟ้าได้อย่างมังกร ทำไมมาถึงตั้งอันดับห้า เง็กเซียนฮ่องเต้ถามแล้ว มังกรก็ตอบว่า ตนต้องหยุดให้น้ำฝนกับชาวบ้านก่อน จึงล่าช้าไปบ้าง และเมื่อมาถึงกลางทาง ได้เห็นกระต่ายเกาะขอนไม้โดนน้ำซัดไปอีกทางหนึ่ง จึงได้ช่วยเป่าลมอยู่ข้างหลังเพื่อพากระต่ายเข้าสู่ฝั่งด้วย เง็กเซียนฮ่องเต้ได้ฟังก็ชื่นชมในน้ำใจของมังกรมาก และให้ตำแหน่งนักษัตรที่ห้าตามกติกาหลังจากนั้นก็มีเสียงม้าร้องมาแต่ไกล แต่ก่อนที่ม้าจะถึงฝั่ง ปรากฏว่ามีงูซึ่งซ่อนตัวอยู่ในกีบม้าโผล่ออกมา ทำให้ม้าตกใจเสียหลักล้มลง งูจึงขึ้นฝั่งก่อนและได้เป็นนักษัตรที่หก ตามด้วยม้าเป็นนักษัตรที่เจ็ดไกลออกไป มีกลุ่มสัตว์สามตัวขึ้นฝั่งมาด้วยกัน คือแพะ ลิง และไก่ ทั้งสามช่วยกันข้ามน้ำมา โดยไก่เป็นคนเจอแพ แล้วพาแพะกับลิงขึ้นแพมาด้วยกัน ทั้งแพะทั้งลิงช่วยกันกวาดสาหร่ายและถ่อแพมาจนถึงฝั่ง เง็กเซียนฮ่องเต้จึงให้ตำแหน่งนักษัตรแก่สัตว์ทั้งสาม โดยให้แพะเป็นอันดับแปด ลิงเป็นอันดับเก้า และไก่เป็นอันดับสิบจากนั้นหมาก็ขึ้นฝั่งตามมา เป็นอีกครั้งที่เง็กเซียนฮ่องเต้สงสัย ว่าทำไมสัตว์ที่ว่ายน้ำเก่งอย่างหมาถึงมาถึงช้าได้ขนาดนี้ หมาตอบว่า เป็นพราะตนมัวแต่อาบน้ำเพลินอยู่ อีกทั้งน้ำก็ใสเย็นชื่นใจเหลือเกิน ก็เลยเล่นน้ำต่อสบายใจ จนเกือบจะมาไม่ถึงฝั่งเสียแล้ว หมาก็ได้ตำแหน่งนักษัตรอันดับสิบเอ็ดไปเย็นแล้ว เง็กเซียนฮ่องเต้กำลังจะปิดรับลงทะเบียน ก็พลันได้ยินเสียงอู๊ด ๆ ของหมูที่กำลังขึ้นฝั่งมา หมูมาช้าเพราะหิวกลางทาง เลยแวะกินอาหารก่อน พอกินอิ่มก็พักงีบหลับต่ออีกต่างหาก ก่อนจะตื่นมากุลีกุจอว่ายน้ำเข้าฝั่ง หมูจึงได้ตำแหน่งนักษัตรอันดับสิบสอง แล้วเง็กเซียนฮ่องเต้ก็สั่งปิดพิธี เป็นอันว่าหมูคือนักษัตรอันดับสุดท้าย แมวซึ่งถูกหนูเตะตกน้ำและว่ายน้ำไม่คล่อง พยายามตะเกียกตะกายยังไงก็มาไม่ทัน จึงอดตำแหน่งปีนักษัตร จากนั้น แมวจึงผูกพยาบาทกับหนู และเกลียดน้ำตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
สนใจดูดวงส่วนตัว หมอแก้ว แม่นชัวร์