เหนื่อยไม่มาก แต่ปังมากแม่ ราศี งานรุ่ง เจ้านายรัก #ยืน1 ในออฟฟิศ
วันนี้ดวงD จะมาพูดถึงราศีที่ งานรุ่ง เงินมา เจ้านายรัก พูดอะไรทำอะไรในออฟฟิศก็ปัง!! เด่น จน ยืน1 ในทุกๆ ด้าน ซึ่งราศีที่เข้ารอบมาในวันนี้มีทั้งหมด 5 ราศีดังต่อไปนี้ นั้นก็คือ
5 ราศีดังต่อไปนี้ เมษ ตุลย์ มิถุน พฤษภ และ สิงห์ มีดาวเด่น ที่ส่งผลโดยตรงต่อการพูดคุยกับผู้ใหญ่ เจ้านาย ลูกค้า ทำให้ กลุ่มราศีพวกนี้ จะได้รับความไว้วางใจสูงในการคิดหรือจะทำอะไรลงไป บวกกับเป็นพื้นฐานดวงที่มีความตั้งใจและจริงจังมาก เวลาโฟกัสหรือทำอะไร ก็จะประสบความสำเร็จ เห็นผลชัดเจน ทำให้เข้าตาคนที่กำลังมองเราอยู่ โดยเฉพาะ หัวหน้า เจ้านาย
แต่ข้อดีก็มีข้อเสียอยู่นะ เพื่อนๆ เคยได้ยินวลีนี้ไหม “อันที่จริงคนเขาอยากให้เราดี แต่ถ้าเด่นขึ้นทุกทีเขาหมั่นไส้ จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน” พูดกันตามตรงในสังคมออฟฟิศ ถ้าได้ที่ทำงาน เพื่อนร่วมงานดี ก็ดีไป แต่บางที่ไม่เป็นแบบนั้น ยิ่งคุณเด่น คนยิ่งไม่ชอบ เพราะเจ้านายมองมาแต่คุณ รักแต่คุณ แน่นอน คุณเด่น คุณทำงานเก่ง เรื่องของตำแหน่งหน้าที่ การเลื่อนขั้น เงินเดือนก็ตามมา ตามความสามารถ ก็จะมีคนค่อยนินทาว่าร้าย เอาไปพูดลับหลัง ไม่ใช้มิตรแท้ และจ้องจะทำลาย จงใช้สติและความเก่ง เอาตัวรอดกับสังคมแบบนี้ไปให้ได้ เพราะดวงชะตาคุณมาเปิดทางมาในรูปแบบนี้แล้ว
วันนี้ดวงD นอกจากเรื่องของดวง เรามี วิธีวางตัวดีในการทำงานเพื่อให้เป็นที่รักของเจ้านาย
และเพื่อนร่วมงาน แบบไม่ประจบประแจง
แต่คือการแสดงศักยภาพการทำงานที่โดดเด่น และทัศนคติที่ดีน่าคบหา
1. การแก้ปัญหาด้วยตัวเองให้สุดความสามารถ
การลองพยายามแก้ปัญหางานของคุณด้วยตัวเองให้สุดความสามารถ ก่อนที่จะให้หัวหน้าลงมือช่วยเหลือ จะทำให้คุณดูดี ดูน่าเชื่อถือ มากกว่าเอะอะได้รับงานอะไรมาก็หวังพึ่งคนอื่นมาช่วย เพราะงานที่ยากเป็นการท้าทายความสามารถทจะช่วยให้คุณพัฒนาตัวเองได้มากขึ้น การพยายามแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองจะยิ่งทำให้หัวหน้าไว้วางใจว่าคุณเป็นคนมีความพยายามพร้อมเรียนรู้ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค
2. ให้คุณค่ากับงาน เหมือนเราเป็นเจ้าของบริษัท
การที่เราคิดแทนในมุมมองของหัวหน้า หรือเจ้าของบริษัท ยิ่งทำให้งานที่ออกมาผิดพลาดน้อย และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อบริษัท วิธีนี้นอกจากจะทำให้งานผ่านฉลุยแล้ว ยิ่งทำให้หัวหน้ามั่นใจว่าคุณเป็นคนรอบคอบมากพอ
3. สื่อสารให้เข้าใจตรงกัน
การคุยสื่อสารกับหัวหน้า ไม่เหมือนกับการคุยกับเพื่อน ถึงแม้ถ้าเรากับหัวหน้าจะสนิทกันมาก แต่เวลาคุยงาน ส่งเมล ควรมีลำดับขั้นตอนรวมถึงการใช้ภาษาที่เป็นทางการ อธิบายเป็นข้อๆ ให้ชัดเจน หัวหน้าอ่านแป๊บเดียวรู้เรื่องเข้าใจง่าย ไม่ยืดเยื้อ การทำงานก็ราบรื่นง่ายขึ้น
4. ขอคำแนะนำ เรียนรู้พัฒนาตัวเองเสมอ
หัวหน้าที่ดีจะพร้อมให้คำปรึกษาแนะนำแก่ทีมตลอดเวลา การขอคำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อการพัฒนาผลงาน ถือเป็นการแสดงออกถึงความกระตือรือร้นสนใจในการทำงาน แถมยังช่วยลดข้อผิดพลาดในการทำงาน เพราะฉะนั้นไม่รู้ก็จงถามซะ อย่าไปเกรงใจ
5. คิดถึงการเลื่อนตำแหน่ง
ไม่ใช่วิธีที่หวังจะเอาลาภ ยศ ชื่อเสียงจนหน้ามืดตามัว แต่เป็นแนวคิดในการตั้งเป้าหมาย (Set a goals) ในการทำงาน เช่น อยากได้ตำแหน่งที่ก้าวหน้า อยากรับผิดชอบโปรเจกต์ใหญ่ๆ ถือเป็นการแสดงศักยภาพความมั่นใจให้หัวหน้าเห็นคุณค่าของคุณได้มากโข โอกาสถูกโปรโมทก็ยิ่งสูงขึ้นไปด้วย
6. ใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆ
รายละเอียดเล็กๆ ที่หลายคนมองข้าม อาจเป็นจุดผิดพลาดสำคัญที่ทำให้หลายโปรเจกต์นั้นไม่สำเร็จ ขาดทุนย่อยยับ การที่เราเป็นคนช่างจับผิดในเรื่องที่ควรจับผิด ลงลึกถึงรายละเอียดเล็กๆ เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด ถือว่าเป็นการคอยระวังหลังให้กับหัวหน้าและบริษัทโดยแท้จริง
7. ขอบคุณไปเถอะ
เรื่องมารยาทถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก แม้จะเป็นคำสั้นๆ อย่างคำว่า “ขอบคุณ” เวลาหัวหน้าสอนงานหรือคอนเมนต์งาน เป็นการแสดงออกถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน น่าคบหาทำงานด้วย พูดไปเถอะไม่เสียเงินซักบาท
8. กล้าแสดงความคิดเห็น
ลองคิดดูถ้าสมมติวันหนึ่งคุณเป็นหัวหน้าคน แล้วต้องการความคิดเห็นในทีม แต่ทุกคนกลับเงียบเชียบ ตาลอยว่างเปล่า คุณคงรู้สึกแย่แน่ๆ กลับกันการที่หัวหน้ามีทีมที่คอยช่วยเหลือสนับสนุนออกไอเดีย ถึงแม้ไอเดียจะเวิร์คไม่เวิร์คก็ตาม แต่แค่นี้หัวหน้าก็เห็นแล้วว่าคุณเป็นคนมีสมอง มีความคิด กล้าแสดงออกในเชิงสร้างสรรค์อย่างน่าชื่นชม
9. อย่าขัดคนอื่นตลอดเวลา
เมื่อคุณอยู่ในที่ประชุมกับทีม พร้อมกับมีหัวหน้าร่วมวงด้วย อย่าเพิ่งขัดหรือไม่เห็นด้วยกับคนอื่นๆ มากเกินไป จนดูเหมือนเป็นการหักหน้าเพื่อนร่วมทีม ถึงแม้คุณจะเก่งแค่ไหน แต่ไม่มีใครชอบแน่ๆ ทางที่ดีควรจะช่วยกันปรับปรุงไอเดียหรือให้คำแนะนำเพิ่มเติมดีกว่าไปปฏิเสธอย่างไม่ใยดีดีกว่านะ
10. ขอโทษให้ถูกวิธี พร้อมมีทางออกให้
แน่นอนว่าทุกคนต้องเคยทำงานผิดพลาด โดนตำหนิติเตียนกันมาทั้งนั้น นอกจากการเอ่ยกล่าวคำ “ขอโทษ” แล้ว การรับข้อผิดพลาดมาปรับปรุงแก้ไข พร้อมหาแนวทางที่จะไม่ทำผิดพลาดซ้ำอีก ยิ่งเป็นการซื้อใจหัวหน้าว่าเราไม่ได้นิ่งดูดายปล่อยปะละเลยต่อปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เรากำลังพยายามแก้ไขมันให้ดีที่สุดอยู่
ขอบคุณข้อมูลจาก : businessinsider
รูปภาพจาก : www.freepik.com